Australian Embassy
Thailand

ANZAC14 - DHOM address_Th

สุนทรพจน์โดย ฯพณฯ โจนาธาน เคนนา อุปทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย
ณ สุสานทหารสัมพันธมิตร จังหวัดกาญจนบุรี

25 เมษายน 2557

มิลตัน แฟร์โคลว นีล แมคเฟอร์สัน และ แฮโรลด์ มาร์ติน เราทั้งหลาย รู้สึกเป็นเกียรติที่ท่านมาร่วมพิธีกับเราในวันนี้

เหล่าทหารผ่านศึก และครอบครัว พร้อมด้วยผู้สนับสนุนเหล่าทหารผ่านศึก

ฯพณฯ โทนี ลินช์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย และเอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย ผู้จัดงานฝ่ายไทย มิตรสหายทั้งหลาย ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ

ข้าพเจ้า เฉกเช่นเดียวกับบางท่านในที่นี้ ไม่เคยมีประสบการณ์ตรงในสงคราม

ข้าพเจ้าไม่ได้มีร่องรอยความทรงจำ แผลเป็น และแบกภาระ อย่างที่ทหารผ่านศึก และผู้เป็นที่รักของพวกเขาประสบ

และถึงแม้ว่าในโลกปัจจุบัน ยังคงพบเห็นความขัดแย้งได้ทั่วไป และการคุกคามยังมีปรากฏ ข้าพเจ้า ซึ่งอาจจะเหมือนกันกับบางท่าน นั่นคือ เรามองข้ามคุณค่าของสันติภาพและความมั่งคั่งที่เราพบพานอยู่เป็นประจำไป

แต่การได้มองออกไปขณะนี้ และเห็นหลุมฝังศพเรียงรายเป็นทิวแถวในความเงียบ อยู่รอบพวกเรา หรือการได้ไปเยือนช่องเขาขาด พร้อมกับเหล่าบุรุษผู้รอดชีวิตจากความโหดร้ายที่เคยเกิดขึ้นที่นั่น ทำให้ประจักษ์ชัดว่าเราเป็นหนี้บุญคุณมากมายเพียงใด

ดังนั้น ในวันนี้ เรามาพร้อมเพรียงกัน เพื่อยกย่องเหล่าทหารชายและหญิงชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน ผู้ประสบกับความโหดร้ายของสงคราม และนำความสุขของสันติภาพมาสู่เรา

เราขอยกย่องความจงรักภักดีของพันธมิตรและมิตรสหายของเราทั้งหลาย ที่ได้ร่วมภารกิจปฏิบัติการ รับมือกับความขัดแย้งและสงคราม ไม่ว่าในส่วนใดทั่วโลกหรือในชนรุ่นใด หลายท่านมีผู้แทนมาร่วมงานอยู่ ณ ที่นี้

เราระลึกถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นเมื่อ 99 ปีก่อน บนชายหาดของคาบสมุทรแกลลิโปลี และสายสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ที่ผูกพันอย่างแน่นแฟ้นจากยุทธการครั้งนั้น

และพวกเราอยู่ที่นี่ ในวันนี้ ในฐานะพยานผู้รับรู้ถึงความทรมานของสงครามอีกสงครามหนึ่ง ของหลายชีวิตในวัยหนุ่มที่ต้องดับสลายไปบนเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า ทั้งเชลยศึกและแรงงานที่ถูกบีบบังคับ ต่างเผชิญกับความโหดร้ายอย่างเดียวกัน และจบชีวิตลงด้วยเหตุเดียวกัน

เราไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิต เสียซึ่งช่วงเวลาแห่งรักและพรสวรรค์ สูญไปซึ่งโอกาส และชีวิตรุ่นลูกหลานที่มิได้บังเกิด

และเราขอส่งความคำนึงไปถึงเหล่าครอบครัวผู้เผชิญกับภาระและความทุกข์ตรม จากการบาดเจ็บหรือสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปในสงคราม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ แกลลิโปลี หรือทางรถไฟสายไทย – พม่า และในยุทธการอื่นๆอีกมากมาย เผยให้เห็นถึงมนุษยธรรมได้อย่างชัดเจน ในเหตุการณ์เหล่านี้ ผู้คนธรรมดานี่เองที่ได้พิสูจน์ตนเองว่ามีความเหนือธรรมดา ผู้ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุด ผู้ที่ยืนหยัดฉายชัดซึ่งมนุษยธรรม

พวกเราทั้งหลาย ณ ที่นี่ในวันนี้ ผู้ซึ่งต่างก็เป็นคนธรรมดาเช่นกัน สามารถเรียนรู้จากเรื่องนี้ เกี่ยวกับศักยภาพของเราในการอดทนต่อความยากลำบาก ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมีกำลังที่จะหยัดยืน ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเราเอง แต่เพื่อผู้อื่น

และจากทุกสิ่งที่ดำเนินไปในวันนี้ ทั้งพิธีการ สุนทรพจน์ การรำลึกถึง และอารมณ์ความรู้สึก เราได้กลั่นความจริงอันเรียบง่ายที่ไร้การแต่งเติมว่า ผู้กดขี่ข่มเหง ไม่อาจมีอำนาจเหนือความกล้าหาญและความดีงามของปุถุชนชายและหญิง

ความจริงข้อนี้ เป็นของขวัญของวันอนุสรณ์ทหารผ่านศึกออสเตรเลีย – นิวซีแลนด์ ที่เปี่ยมด้วยพลังและคุณค่า อันสัมพันธ์กับทั้งสันติภาพและสงคราม และทั้งกับอนาคต และอดีตของเรา

เรายืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อแสดงความเคารพต่อเหล่าทหารผ่านศึกและผู้คน ผู้แสดงออกซึ่งมนุษยธรรมแม้ต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานและการเสียสละ ขอให้สิ่งใดๆที่เราเลือกกระทำเป็นไปในทางที่จะสรรเสริญแบบอย่างที่พวกเขาสร้างไว้

ระลึกถึงไม่ลืมเลือน