ข้อตกลงระดับภูมิภาคเรื่องการตั้งรกราก
- อะไรคือข้อตกลงร่วมกันระหว่างปาปัวนิวกินีและออสเตรเลีย
ภายใต้ข้อตกลงลงนามโดยปาปัวนิวกินีเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2556 ซึ่งเป็นข้อตกลงระดับภูมิภาคเรื่องการตั้งรกราก ผู้แสวงหาที่พักพิงที่เดินทางมายังออสเตรเลียทางทะเลโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกส่งตัวไปยังปาปัวนิวกินีเพื่อดำเนินการประเมินและหากพบว่าเป็นผู้ลี้ภัยก็จะให้ตั้งรกรากที่นั่น
ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ไม่ว่าผู้แสวงหาที่พักพิงจะเดินทางมาถึงออสเตรเลียในที่ใดโดยเรือ พวกเขาจะถูกส่งไปยังปาปัวนิวกินีและหากถูกพบว่าเป็นผู้ลี้ภัยที่แท้จริงก็จะให้ตั้งรกรากที่ปาปัวนิกินี
ผู้คนที่พบว่าไม่ได้เป็นผู้ลี้ภัยอาจถูกส่งกลับไปยังประเทศแม่ของพวกเขาหรือประเทศที่พวกเขามีสิทธิในการอยู่อาศัย หรือถูกกักตัวไว้ในสถานที่ส่งผ่าน
จะไม่มีการจำกัดจำนวนผู้ที่จะถูกส่งตัวหรือตั้งรกราก
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะส่งสาส์นอันชัดเจนที่สุดว่า การเดินทางมายังออสเตรเลียทางเรือนั้นไม่ใช่วิธีในการได้มาซึ่งการเข้าอยู่อาศัยในออสเตรเลีย
- ข้อตกลงนี้เริ่มใช้เมื่อใด
ในทันที
ออสเตรเลียจะดำเนินงานร่วมกับปาปัวนิวกินีเพื่อขยายศูนย์ดำเนินการระดับภูมิภาคบนเกาะมานัส และจะสำรวจการก่อสร้างศูนย์ดำเนินการระดับภูมิภาคอื่นๆในปาปัวนิวกินี
ปาปัวนิวกินียังได้ตกลงที่จะดำเนินการถอนคำค้านในอนุสัญญาด้านผู้ลี้ภัยทันที ในเรื่องเกี่ยวกับการที่ออสเตรเลียจะส่งผู้แสวงหาที่พักพิงไปยังปาปัวนิกินี
ข้อตกลงนี้ยังจะเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ (รวมถึงรัฐต่างๆในกลุ่มหมู่เกาะแปซิฟิก) สามารถร่วมในข้อตกลงที่คล้ายคลึงกันนี้ได้ในอนาคต
- เด็กๆจะถูกส่งตัวหรือไม่
ทุกคนที่เดินทางมาถึงภายหลังจากการประกาศจะถูกส่งตัวทันทีที่การตรวจสุขภาพเสร็จสมบูรณ์และมีที่พักอาศัยรองรับ เด็กๆและกลุ่มครอบครัวจะไม่ได้รับการยกเว้นจากการส่งตัว การยกเว้นพวกเขาจะเป็นการสนับสนุนให้ผู้ลักลอบขนคนเข้าเมืองนำเด็กๆขึ้นเรือสู่ออสเตรเลีย
- แล้วผู้เยาว์ที่เดินทางตามลำพังล่ะ
จะใช้เวลานานกว่าในการจัดหาที่พักอาศัยที่เหมาะสมสำหรับผู้เยาว์ที่เดินทางตามลำพัง แต่เมื่อสถานที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการนั้นพร้อมแล้วการส่งตัวก็จะเริ่มขึ้น แม้ว่าจะไม่มีการยกเว้นโดยรวมหรือโดยทั่วไปในการส่งตัวไปยังประเทศที่จะดำเนินการตามขั้นตอนในระดับภูมิภาค ออสเตรเลียตระหนักถึงความจำเป็นในการตอบสนองความต้องการของผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพังในด้านผู้ปกครองและสวัสดิภาพ
หน่วยงานที่มีอำนาจของออสเตรเลียจะดำเนินงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานของปาปัวนิวกินีเพื่อพัฒนากรอบการทำงานสำหรับการจัดการเพื่อดูแลตอบสนองความต้องการของผู้เยาว์เมื่อพวกเขาถูกส่งตัวไปยังปาปัวนิวกินี
- จะเกิดอะไรขึ้นหากผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพังมีญาติที่อยู่ในออสเตรเลียแล้ว และจะมีอะไรแตกต่างไปไหมหากญาตินั้นมีวีซ่าถาวรแล้ว
จะไม่มีอะไรแตกต่างถ้าผู้เยาว์ที่เดินทางตามลำพังนั้นมีครอบครัวอยู่ในออสเตรเลีย ทุกคนที่เดินทางมาถึงภายหลังจากการประกาศนี้จะถูกส่งตัวหลังจากการตรวจสุขภาพเสร็จสมบูรณ์และมีที่พักอาศัยที่เหมาะสมรองรับ
ถ้าทุกคน รวมถึงผู้เยาว์ที่เดินทางตามลำพังหรือสมาชิกในครอบครัวของเขาในออสเตรเลีย หลบเลี่ยงช่องทางที่ควรในการเข้าเมือง และจ่ายเงินให้กับผู้ลักลอบขนคนเข้าเมืองเพื่อเดินทางทางเรือเข้าสู่ออสเตรเลีย พวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนั้นภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการย้ายรกรากโดยจะถูกส่งตัวไปจากออสเตรเลียสู่ประเทศที่เป็นผู้ดำเนินการระดับภูมิภาค
ผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพังจะไม่ได้รับการยกเว้นจากกระบวนการที่จัดไว้แล้วนี้
- เด็กๆจะได้รับการตั้งรกรากในปาปัวนิกินีหรือไม่
รัฐบาลออสเตรเลีย ในความร่วมมือกับรัฐบาลปาปัวนิกินี จะสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือในการตั้งรกรากแก่ผู้ที่มีสถานะผู้ลี้ภัย ซึ่งรวมถึงเด็กๆและครอบครัวของพวกเขา
ผู้เยาว์ที่เดินทางโดยลำพังจะได้รับการตั้งรกรากเมื่อมีที่พักอาศัยและบริการที่ปลอดภัยและเหมาะสมพร้อมรองรับ
- จะเกิดอะไรขึ้นกับสตรีมีครรภ์
จุดยืนพื้นฐานคือทุกคนที่เดินทางมาถึงภายหลังจากการประกาศนี้จะถูกส่งตัวเมื่อเสร็จสิ้นการตรวจสุขภาพและเมื่อที่พักอาศัยที่เหมาะสมพร้อมรองรับ
จะไม่มีการยกเว้นโดยรวมแก่เด็กๆและกลุ่มครอบครัว รวมทั้ง สตรีมีครรภ์
จะมีการจัดการอย่างเหมาะสมในปาปัวนิวกินีให้สำหรับเด็กๆและครอบครัว
- อะไรจะเกิดขึ้นหากผู้แสวงหาที่พักพิงเดินทางมาถึงยังแผ่นดินใหญ่ พวกเขาจะยังคงจะถูกส่งตัวไปยังปาปัวนิวกินีภายใต้ข้อตกลงนี้หรือไม่
การแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยการย้ายถิ่นฐานเมื่อเร็วๆนี้หมายความว่าการเดินทางโดยเรือมาถึงแผ่นดินใหญ่จะถูกปฏิบัติต่อเฉกเช่นเดียวกับผู้ที่เดินทางมาถึงยังสถานที่นอกชายฝั่ง
- แล้วผู้ที่เดินทางมาถึงก่อนการประกาศล่ะ
ผู้ที่เดินทางมาถึงก่อนการประกาศจะไม่อยู่ภายใต้ข้อตกลงใหม่ในการตั้งรกรากในปาปัวนิวกินี
อย่างไรก็ตาม ผู้ใดก็ตามที่เดินทางมาถึงภายหลังวันที่ 13 สิงหาคม 2555 จะยังสามารถถูกส่งตัวไปยังประเทศผู้ดำเนินการระดับภูมิภาคเพื่อประเมินคำร้องของพวกเขา
- รัฐบาลยังคงสานต่อแผนงานทางมนุษยธรรมซึ่งรับผู้คนเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 คนหรือไม่
ใช่ แผนงานทางมนุษยธรรมของออสเตรเลียได้เพิ่มจำนวนที่เปิดรับเป็น 20,000 คนต่อปี
นับเป็นการเพิ่มขึ้นที่สูงที่สุดของแผนงานทางมนุษยธรรมของออสเตรเลียในระยะเวลา 30 ปี
- ผู้คนที่ถูกส่งตัวไปยังศูนย์ใหม่จะต้องผ่านการดำเนินการที่เหมือนกันกับผู้ที่อยู่บนเกาะมานัสหรือไม่
ใช่ ปาปัวนิวกินีจะเป็นผู้ระบุสถานภาพของผู้ลี้ภัย ภายใต้กฏหมายของปาปัวนิวกินี
- จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่ถูกพบว่าไม่ได้เป็นผู้ลี้ภัย
ผู้ที่ถูกพบว่าไม่ได้เป็นผู้ลี้ภัยจะถูกคาดหวังให้เดินทางกลับไปยังประเทศแม่ของตนหรือไปยังประเทศที่พวกเขามีสิทธิในการอยู่อาศัย
ผู้คนที่จะถูกส่งตัวไปยังปาปัวนิวกินีภายใต้ข้อตกลงใหม่นี้มีจำนวนเท่าไหร่
ไม่มีการกำหนดจำนวนสูงสุด
- ยังคงมีการใช้ หลักการ “ไม่มีข้อได้เปรียบ” อยู่หรือไม่ ผู้ที่ไม่ได้ถูกส่งตัวจะยังคงต้องรอหลายปีกว่าจะได้วีซ่าหรือไม่
รัฐบาลจะยังคงใช้หลักการ “ไม่มีข้อได้เปรียบ”
สิ่งนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของกรอบการทำงานระดับภูมิภาค เพื่อให้แน่ใจว่าเราได้ลดสิ่งจูงใจของการเดินทางอย่างอันตรายโดยเรือสู่ออสเตรเลียไปได้อย่างมาก และในขณะเดียวกับก็มอบโอกาสในการตั้งรกรากผ่านทางช่องทางปรกติของแผนงานด้านมนุษยธรรมของออสเตรเลียมากขึ้น
- การกระทำเช่นนี้ถูกกฏหมายหรือไม่
รัฐบาลออสเตรเลียมีความมั่นใจว่าการกระทำทุกอย่างที่ได้ทำเพื่อปฎิบัติตามนโยบายนี้เป็นไปตามที่กฏหมายกำหนด
- ข้อตกลงนี้เป็นไปตามพันธกิจสากลของออสเตรเลียหรือไม่
เราจะดำเนินการตามข้อตกลงนี้ในวิถีทางที่สอดคล้องกับพันธกิจสากลของเรา
ผู้ที่ถูกส่งตัวและพักอาศัยในปาปัวนิวกินีจะได้รับการปฏิบัติต่ออย่างให้เกียรติและให้ความนับถือ โดยเป็นไปตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชน